วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

      6 พ.ค.56 พรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งนำโดยพรรคอัมโนคว้าชัยชนะเลือกตั้งทั่วไป ส่งผลนายนาจิบ ราซัก จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกสมัย หลังขณะนี้คว้าที่นั่งในสภาได้แล้ว 133 ที่นั่ง
ผลเลือกตั้งทั่วไปมาเลเซียวานนี้ที่ผ่านมา ผลล่าสุดปรากฎว่า พรรคแนวร่วมแห่งชาติ นำโดยนายนาจิบ ราซักวัย 59 ปี คว้าที่นั่งในสภาได้ 133 ที่่นั่ง ซึ่งมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่นั่งทั้งหมด 222 ที่นั่ง ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำจากพรรคฝ่ายค้านได้เพียง 89 ที่นั่งเท่านั้น โดยผลการเลือกตั้งดังกล่าวมีแนวโน้มว่า นายนาจิบ จะขึ้นเป็นผู้นำมาลาเซียต่ออีกสมัย
คณะกรรมการเลือกตั้งชาติมาเลเซีย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิประมาณ ร้อยละ80 หรือคิดเป็นจำนวน 10 ล้านคน จากทั้งหมด 13 ล้านคน ใน 8,000 หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ
นายราซัก กล่าวกับผู้สนับสนุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่า นี่เป็นการตัดสินใจของประชาชน ทุกคนควรยอมรับชัยชนะของพรรครัฐบาลครั้งนี้ โดยพวกเราควรแสดงให้โลกรู้ว่า มาเลเซียมีประชาธิปไตยที่สมบรูณ์
ขณะที่นายอันวาร์ ปฎิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่า โกง และบิดเบือนผลเลือกตั้ง โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ ที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนเครื่องบินเช่าเหมาลำขนคนมาลงคะแนนในรัฐสำคัญ รวมถึงมีการใช้หมึกพิเศษที่สามารถลบออกได้ ทำให้มีการสวมสิทธิเกิดขึ้น
นอกจากนี้ องค์กรอิสระที่ตรวจสอบเลือกตั้ง เปิดเผยว่า มีการออกเอกสารบัตรประชาชนให้คนต่างด้าวลงคะแนนเสียง ขณะที่ฮิวแมนไรท์ วอช ของสหรัฐฯ ระบุว่าก่อนหน้าลงคะแนน มีการโจมตีสำนักข่าวอิสระท้องถิ่นในประเทศ
  ทั้งนี้ ชัยชนะของพรรคอัมโนดังกล่าาวถือเป็นครั้งที่ 13 ติดต่อกัน หลังผูกขาดอำนาจเป็นรัฐบาลมาตั้งแต่ที่มาเลเซียประกาศเอกราชจากประเทศอังกฤษเมื่อปี 2500 ซึ่งเหล่าบรรดานักวิเคราะห์คาดว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากฝ่ายค้าน
    สำหรับประวัติของนายนาจิบราซักว่าที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นบุตรชายคนโตของนายอับดุลราซักอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่2ของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
      ต่อมาปี 2517 นายนาจิบเดินทางกลับประเทศ และเข้าทำงานที่บริษัทน้ำมันปิโตรนาสอยู่สักพัก จากนั้นไม่นาน พ่อของนายนาจิบถึงแก่อสัญกรรมอย่างกระทันหัน ส่งผลให้ตำแหน่งที่นั่งสภาว่างลง
       นายนาจิบ ตัดสินใจเลงเล่นการเมือง และได้เป็นสมาชิกรัฐภาที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในขณะนั้นมีอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น ในปี 2552 นายนาจิบ มีโอกาสขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นครั้งแรกเนื่องจากนายอับดุลละห์ บาดาวี นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นลาออก

นาจิบ ราซัคMalaysia's Prime Minister Najib Razak (C) arrives at his party headquarters after polls closed in Kuala Lumpur May 5, 2013.